ครูผู้มีพระคุณท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ทรงความรู้และรอบรู้ในเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ได้เคยสอนไว้ว่า..การจะประสบความสำเร็จในชีวิตนั้นต้องอาศัยการ “รอโอกาส”
และเมื่อโอกาสนั้นมาถึง จะต้อง “ฉวยโอกาส” ที่ได้รับนั้นอย่าปล่อยให้โอกาสผ่านเลยไป แต่ที่ดีที่สุดนั้น ก็คือการ “สร้างโอกาส” เพราะการสร้างโอกาสเป็นทั้งศาสตร์และศิลปที่จะต้องเรียนรู้และกระทำให้เป็นจริง เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี หลายต่อหลายคนสูญเสียโอกาสไป เพราะใจร้อน ไม่ยอมรอ หลายต่อหลายคนเมื่อโอกาสผ่านมาก็ไม่ยอมรับโอกาสนั้น เพราะคิดว่าจะมีโอกาสที่ดีกว่าตามมาในภายหลัง…
ครูคนหนึ่งบอกลูกศิษย์ให้ไปเก็บดอกหญ้าที่สนามหญ้าหน้าโรงเรียนมาคนละดอกเพื่อเปรียบเทียบกัน ลูกศิษย์เกือบทุกคนกลับมาเร็วบ้างช้าบ้างพร้อมกับดอกหญ้าหลากสี แต่ลูกศิษย์คนสุดท้ายกลับมามือเปล่า
“ผมเจอดอกหญ้าตั้งแต่ขอบสนามแล้ว แต่คิดว่าเมื่อเดินไปอีกก็จะเจอดอกหญ้าที่สวยกว่า เลยเดินดูไปเรื่อย ๆ กว่าจะรู้ตัวก็ไปถึงขอบสนามแล้ว เลยไม่มีดอกหญ้ามาฝาก เพราะไม่กล้าเดินย้อนกลับมาเก็บ” ครูจึงสอนว่า
“ถ้ามีโอกาสอีกครั้ง เธอจะทำอย่างไร”
คนเรานั้น แท้จริงแล้วมีโอกาสที่จะแก้ตัวได้เกือบทุกเรื่อง ถ้าทำอะไรผิดพลาดไป แล้วรู้ตัวแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวเสีย การงานก็จะประสบความสำเร็จความรักก็จะลงตัว และชีวิตก็น่าจะเป็นไปตามธรรมชาติ
แต่เขาว่ากันว่าชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก..อยากทำอะไรที่เป็นคุณประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติก็รีบทำเสีย ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำเมื่อวันนั้นมาถึง คุณเคยนึกไหมว่าถ้าคุณกำลังจะต้องจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แล้วเกิดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถที่จะให้โอกาสคุณมีชีวิตใหม่ คุณจะทำอะไร…
ทุกคนมักจะขอโอกาสอีกครั้งเสมอ..เมื่อได้ทำอะไรผิดพลาดไป
แต่โอกาสที่ได้รับมานั้น คุณจะใช้อย่างไร..
เคยอ่านพบการกล่าวอำลาของนักเขียนผู้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติท่านหนึ่ง ที่กำลังจะจากโลกไปด้วยโรคร้าย เขาเขียนจดหมายลาทุก ๆ คนด้วยเรื่องราวที่น่าจะเป็นประโยชน์และสมควรที่จะได้รับการแพร่ขยายต่อไปเป็นอย่างยิ่ง
เขาเริ่มต้นว่า..ถ้าฉันมีโอกาสอีกครั้งที่จะมีชีวิตต่อไป
..ฉันจะไม่พูดทุกอย่างที่ฉันคิด แต่ฉันจะคิดก่อนพูดออกไปทุกครั้ง
..ฉันจะไม่คิดถึงราคาของทุกสิ่ง แต่จะคิดถึงคุณค่าแทน
..ฉันจะนอนให้น้อยลง และใช้เวลาครุ่นคิดให้มากขึ้น เพราะทุกนาทีที่ปิดตาไปนั้น ฉันเสียเวลาที่มีคุณค่าไป 60 วินาที
..ฉันจะทำสิ่งที่คนอื่นหยุดทำไปแล้ว และจะลุกมาทำงานในขณะที่คนอื่นหลับ
..ฉันจะแต่งตัวให้เรียบง่าย และเปิดเผยทั้งกายและใจ
..ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้จะแก่ชราแต่ก็มีความรักได้ และคุณจะเริ่มแก่ชราทันที่ที่ขาดรัก
..ฉันจะปกป้องเด็ก ๆ และให้ความช่วยเหลือพวกเขาเมื่อจำเป็น แต่จะปล่อยให้พวกเขาโบยบินด้วยปีกของเขาเอง
..สำหรับผู้ชรา ฉันจะแสดงให้เขาเห็นว่าความตายไม่ได้มากับความชราเสมอไป แต่มากับความหลงลืมต่างหาก
..ทุกคนอยากจะไปให้ถึงยอดของขุนเขา โดยคิดว่าความสุขนั้นจะเกิดขึ้น เมื่อได้พิชิตยอดเขาแล้วโดยลืมความยากลำบากและประสบการณ์ในการเดินทางขึ้นไปพิชิตยอดเขาทั้งๆ ที่ที่นั่นเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการเดินทาง เพราะสำหรับนักเดินทางมืออาชีพแล้ว ความสุขในระหว่างการเดินทางนั้นมากกว่าความสุขเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทางมากนัก
..เมื่อลูกน้อยเริ่มจับมือพ่อ หมายความว่าพวกเขาจะจับมือพ่อของเขาตลอดไป
..คนที่ชอบดูถูกคนอื่นนั้น ก็เพื่อที่จะทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเขาดีขึ้น
จงบอกและแสดงความความรักของคุณออกไปเมื่อมีโอกาส ถ้าฉันรู้ว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของฉัน ฉันจะกอดคุณไว้ให้แนบแน่น เพื่อจะปกป้องคุณจนวาระสุดท้ายที่ทำได้
..ถ้านี่เป็นนาทีสุดท้ายที่ฉันจะได้เห็นคุณ ฉันจะบอกคุณว่า ฉันรักคุณเสมอ และคิดว่าคุณก็คงจะเข้าใจ
มีวันใหม่เสมอในชีวิตของคนเรา เราทุกคนมีโอกาสใหม่เสมอ จงทำทุกอย่างให้ดีขึ้น พยายามเก็บคนที่คุณรักไว้ใกล้ตัว อย่าให้จากไป บอกพวกเขาว่าคุณต้องการพวกเขา รักพวกเขา และจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี
หัดพูดคำว่าขอโทษนะ ยกโทษให้ฉันด้วย ได้โปรด ขอบคุณ หรือคำอื่น ๆ ที่ให้ความหมายที่ดีที่คุณนึกออกเป็นประจำ เพราะไม่มีใครที่จะระลึกถึงคุณได้ ถ้าคุณเก็บความคิดและความรู้สึกไว้ภายในโดยไม่แสดงออกไป
แสดงออกไปนะว่าคุณมีความรัก อยากให้ทุกคนที่อยู่รอบกายคุณมีความสุข และเพราะความรักความเมตตาดังกล่าวนั้นเองที่จะทำให้คุณมีความสุข ไม่ว่าคุณจะมีโอกาสใหม่หรือไม่
เพราะบางครั้งคุณอาจจะไม่มีโอกาส..อีกครั้ง..เหมือนที่คุณอยากได้
ตั้งสติไว้กับวันนี้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ เพื่อที่จะไม่ต้องบอกว่า..รู้อย่างนี้จะทำแบบนั้นแบบนี้ จะไม่ทำแบบนั้นแบบนี้
ถ้าคุณมีคนรักอยู่แล้ว มองให้เห็นความรักของเขาหรือเธอ และตอบแทนความรักของเขาหรือเธอด้วยความรักที่จริงใจโดยไม่มีอะไรมาปิดบังซ่อนเร้น
เขาว่า ชีวิตของคนเรานั้นสั้นนัก..อะไรดีพึงกระทำ และต้องกระทำ..อะไรที่ไม่ดี ไม่พึงกระทำ และต้องไม่กระทำเสมอ
ขอให้มีชีวิตอยู่ด้วยความรัก เผื่อแผ่ความรักให้คนรอบข้างอย่างมีความสุข และให้การเดินทางของชีวิตเป็นไปอย่างมีประโยชน์และมีคุณค่า ใช้เวลาที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าทุกนาทีที่ผ่านไป เพื่อที่จะทำให้การเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางเต็มไปด้วยความสุขและความประทับใจจนเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง จะได้ยังคงยิ้มได้อย่างมีความสุข
รักกันวันนี้ดีกว่า เผื่อวันพรุ่งนี้มีอันเป็นไป..
ถ้าคุณอ่านแล้วเห็นด้วย ก็ส่งต่อไปนะ ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ก็ยังเหมือนวันนี้ แต่ถ้าคุณส่งต่อไป พรุ่งนี้อาจจะไม่เหมือนเดิม
เพราะพรุ่งนี้จะต้องดีกว่า..อย่างแน่นอน
ที่มา: คอลัมธ์คลีนิกรัก ของ น.พ. พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ จาก เนชั่นสุดสัปดาห์